ในทศวรรษถัดไป (2030–2040) การเติบโตของเทคโนโลยีอย่างรวดเร็วในด้าน ปัญญาประดิษฐ์ (AI) หุ่นยนต์อุตสาหกรรม และโครงสร้างพื้นฐานอัจฉริยะ กำลังจะเปลี่ยนแปลงความต้องการแม่เหล็ก NdFeB (นีโอดิเมียม-เหล็ก-โบรอน) อย่างมีนัยสำคัญ แม่เหล็กประเภทนี้มีคุณสมบัติเด่นที่ตอบโจทย์การใช้งานในระบบอัจฉริยะยุคใหม่ ทั้งในแง่ ทนความร้อนสูง (耐高温) และ ทนต่อการกัดกร่อน (耐腐蚀) ซึ่งช่วยยืดอายุการใช้งานในสภาพแวดล้อมที่หลากหลาย
ความต้องการแม่เหล็ก NdFeB ในระบบหุ่นยนต์และ AI จะเน้นไปที่ กำลังต้านทานการลบล้างแม่เหล็กสูง (高矫顽力) เพื่อให้แน่ใจว่าแม่เหล็กจะไม่สูญเสียแรงดูดภายใต้การใช้งานต่อเนื่อง อีกทั้งยังต้องมี เสถียรภาพสูง (稳定性强) ในการทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้า เซ็นเซอร์ความแม่นยำสูง และระบบควบคุมอัจฉริยะ
ในอุตสาหกรรมโครงสร้างพื้นฐานอัจฉริยะ เช่น สะพานอัจฉริยะ ระบบขนส่งสาธารณะอัตโนมัติ หรือระบบพลังงานหมุนเวียน ความต้องการแม่เหล็ก NdFeB ที่มี แรงดูดสูง (吸附力强) มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง เพื่อรองรับอุปกรณ์ขนาดเล็กและระบบขับเคลื่อนที่ต้องใช้พลังงานแม่เหล็กสูงโดยไม่เปลืองพื้นที่
จุดแข็งอีกประการหนึ่ง คือ ความสามารถในการออกแบบและผลิตแม่เหล็ก ตามสเปกเฉพาะ (可支持定制化磁铁方案) ให้เหมาะสมกับแต่ละงาน ช่วยให้ผู้ประกอบการในสาย AI และระบบอัตโนมัติสามารถนำไปใช้ในอุปกรณ์เฉพาะด้าน หรืองานที่ต้องการความยืดหยุ่นสูงทางวิศวกรรม
แนวโน้มปี 2030–2040 คาดว่า การทนความร้อนสูง และ ทนต่อการกัดกร่อน จะเป็นมาตรฐานในอุตสาหกรรมใหม่ๆ ที่เกี่ยวข้องกับปัญญาประดิษฐ์ หุ่นยนต์ และเมืองอัจฉริยะ ในขณะเดียวกัน กำลังต้านทานการลบล้างแม่เหล็กสูง และ เสถียรภาพสูง จะเป็นปัจจัยสำคัญที่ผู้ผลิตเลือกใช้ NdFeB ในผลิตภัณฑ์ของตน
สุดท้าย ความสามารถด้าน แรงดูดสูง และ การสนับสนุนโซลูชันแม่เหล็กตามสเปก จะช่วยให้ NdFeB ยังครองความนิยมอย่างต่อเนื่องและกลายเป็นหัวใจของเทคโนโลยีแห่งอนาคต
Jinconn WeChat