ในยุคที่เมืองอัจฉริยะและระบบโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลกำลังขยายตัวอย่างต่อเนื่องในช่วงปี 2030–2040 บทบาทของ แม่เหล็ก NdFeB จะยิ่งทวีความสำคัญในทุกระบบ ตั้งแต่การขนส่งอัจฉริยะ (Smart Mobility) ไปจนถึงโครงข่ายพลังงานหมุนเวียนและการควบคุมอัตโนมัติในเมือง
ระบบขนส่งสาธารณะยุคใหม่ เช่น รถไฟฟ้าไร้คนขับ ลิฟต์อัจฉริยะ และยานพาหนะไฟฟ้า ต้องการ แม่เหล็ก NdFeB ที่ทนความร้อนสูง (耐高温) เพื่อรองรับการทำงานต่อเนื่องในสภาพแวดล้อมที่อุณหภูมิแปรผัน อีกทั้งยังต้อง ทนต่อการกัดกร่อน (耐腐蚀) จากความชื้น ฝุ่น และสารเคมีในเมืองใหญ่ เพื่อยืดอายุการใช้งานและลดค่าบำรุงรักษา
ในระบบพลังงานสะอาด เช่น กังหันลม หรือโซลาร์เซลล์อัจฉริยะ ความต้องการ กำลังต้านทานการลบล้างแม่เหล็กสูง (高矫顽力) มีความสำคัญมากในการรับมือกับสนามแม่เหล็กแรงสูงและสภาพการทำงานที่หนักหน่วง ขณะเดียวกันยังต้อง เสถียรภาพสูง (稳定性强) เพื่อให้มั่นใจว่าแม่เหล็กจะไม่สูญเสียคุณสมบัติในระยะยาว
การจัดการเมืองอัจฉริยะ เช่น ระบบตรวจจับความปลอดภัย การควบคุมจราจร หรืออุปกรณ์ IoT สำหรับสิ่งแวดล้อม จำเป็นต้องใช้แม่เหล็ก NdFeB ที่มี แรงดูดสูง (吸附力强) เพื่อช่วยยึดจับเซ็นเซอร์ขนาดเล็กหรือชิ้นส่วนสำคัญอย่างมั่นคงแม้ในสภาพที่มีแรงสั่นสะเทือน
จุดแข็งสำคัญที่ขาดไม่ได้คือ ความสามารถในการ ออกแบบแม่เหล็กตามสเปกเฉพาะ (可支持定制化磁铁方案) ซึ่งช่วยให้แต่ละเมืองหรือองค์กรสามารถนำแม่เหล็ก NdFeB ไปใช้งานที่ต้องการความแม่นยำหรือฟังก์ชันเฉพาะด้าน ไม่ว่าจะเป็นระบบขนส่งสาธารณะ อาคารประหยัดพลังงาน หรือโครงข่ายอัจฉริยะสำหรับผู้สูงอายุ
การมุ่งเน้น ทนความร้อนสูง และ ทนต่อการกัดกร่อน จะกลายเป็นมาตรฐานใหม่ในอุตสาหกรรมโครงสร้างพื้นฐาน ส่วน กำลังต้านทานการลบล้างแม่เหล็กสูง และ เสถียรภาพสูง จะยกระดับมาตรฐานความปลอดภัยและความน่าเชื่อถือ ขณะที่ แรงดูดสูง และ การสนับสนุนโซลูชันแม่เหล็กตามสเปก จะเป็นกุญแจสู่ความยืดหยุ่นและความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีของเมืองในอนาคต
Jinconn WeChat